หากย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ในยุคที่เทคโนโลยียังไม่ได้เติบโตเท่าปัจจุบัน เราจะเห็นได้ว่าร้านค้าหรือแม้กระทั้งห้างสรรพสินค้ายังใช้ป้ายโฆษณาด้วยป้ายไวนิล ที่ใม่สามารถแก้ไขข้อความหรือดึงดูดความสนใจได้เท่าที่ควร แต่เดี๋ยวนี้ยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเราไปแล้ว ร้านค้าหลายๆแห่งมีติดตั้งจอ Digital Signage ที่เป็นเครื่องมือช่วยโปรโมทร้านให้ลูกค้าได้เห็นกลยุทธ์ที่เราได้วางไว้ เช่น แสดงโปรโมชันของเดือนนี้ หรือโชว์จุดเด่นผลิตภัณฑ์ที่เราภูมิใจนำเสนอ
ซึ่งจากประสบการณ์หน้างานที่ผ่านมาบวกกับงานวิจัยหลายแห่งชี้ให้เห็นว่า การแต่งร้านให้ดีมีผลต่อความรู้สึกของลูกค้าที่จะตัดสินว่าร้านนั้นๆ น่าเดินเข้าไปใช้บริการมากน้อยแค่ไหน
วันนี้ทาง AAD เลยจะมาแนะนำการแต่งร้านด้วยจอ Digital Signage ให้สุดปัง! ด้วย 3 เทคนิคดีๆ ให้นำไปใช้ได้เลย
1. First Impression (ฮวงจุ้ยร้านดึงดูดให้หลงใหล)
เรียกได้ว่าเป็นฮวงจุ้ยเด่นของร้านค้าได้เลย ในแต่ละร้านก็จะมีแบบร้านค้าที่ต่างกันออกไป การวางจอก็จะมีมุมมองที่ไม่เหมือนกัน มุมที่ดีควรจะเป็นมุมที่ลูกค้าสามารถมองเห็นได้ชัดจากหน้าร้าน อย่างเช่นร้านจำหน่ายรองเท้าเกรดพรีเมียมยี่ห้อหนึ่งที่มีการออกแบบโดยการติดตั้งจอ Samsung Smart Signage หลากหลายรูปแบบไว้หน้าร้านเพื่อให้ดูน่าสนใจโดยกันด้วยกระจกใสอยู่ด้านหน้า เพียงเท่านี้เราก็ไม่จำเป็นต้องตกแต่งบริเวณนั้นเพิ่มเติมมาก ก็สามารถทำให้ร้านรู้สึกได้ถึงความเรียบ หรู น่าสนใจ แบบนี้แล้วเมื่อลูกค้าเดินผ่านไปมาก็รับรองได้ว่าสะดุดตาแน่นอน
คำถามต่อมาคือ… หากหน้าร้านเราไม่สามารถวางจอได้หล่ะ จะทำอย่างไรดี? ซึ่งมีหลายแห่งที่ไม่สามารถใช้พื้นที่ตรงหน้าร้าน หรือออกแบบมาให้หน้าร้านเป็นพื้นที่จัดแสดงอย่างอื่น อีกจุดที่หนึ่งสามารถดึดดูดสายตาได้ไม่แพ้กับตำแหน่งหน้าร้านคือบริเวณที่เมื่อเราอยู่หน้าร้านแล้วมองเข้าไปตรงๆ จุดนั้นจะเป็นมุมมองที่มีมิติลึกเข้ามาอีกขั้นหนึ่ง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือร้านแบรนด์กระเป๋าไลฟ์สไตล์ไอที ที่ออกแบบให้ตำแหน่งจออยู่ด้านใน เมื่อลูกค้ามองเข้ามาในร้านก็จะพบกับ Samsung Video Wall ที่สามารถนำเสนอสินค้าได้อย่างดูดีมีระดับ
จุดสร้างความประทับใจที่เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าโดยตรงจะเป็นบริเวณใกล้เคียงกับสินค้า การกำหนดตำแหน่งจอว่าจะอยู่เหนือสินค้าหรือด้านข้างนั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม หากสินค้ามีลักษณะทรงสูงหรือวางอยู่ในพื้นที่สูง พื้นที่ที่เตรียมไว้สำหรับจอก็ควรวางในตำแหน่งด้านข้างสินค้า แต่ถ้าตัวสินค้าถูกวางอยู่ในระดับต่ำ ก็สามารถวางจอในตำแหน่งเหนือสินค้าได้ ซึ่งจุดนี้มีข้อควรระวังอยู่อย่างหนึ่งคือ ต้องสังเกตด้วยว่าสินค้าต้องไม่บดบังมุมมองของจอ
2. Dangerous Area (บริเวณที่ต้องระวัง)
เป็นที่ทราบกันดีว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มักจะไม่ถูกกับความชื้นและความร้อน ดังนั้นการติดตั้งที่ดีต้องประเมินความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้นกับจอ Digital Signage ของเราเพราะหากเกิดเหตุการณ์เช่นเกิดมีน้ำรั่วไหลมาลงที่จอ หากโชคดีก็ยังสามารถเปิดใช้งานได้ปกติแต่หากจอโดนน้ำจนไม่สามารถใช้งานได้ ก็จะทำให้เราต้องเสียเวลาและเสียเงินในการซ่อม เราจึงจะแนะนำบริเวณทิ่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์มาเล่าสู่กันฟัง บริเวณแรกคือบริเวณใต้แอร์ เป็นจุดเสี่ยงอันดับต้นๆ ที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายๆ ประเภทไม่อยากอยู่ตรงนั้น เพราะถ้าเกิดว่าแอร์มีน้ำไหลลงมาก็ไม่น่าจะพึงประสงค์สักเท่าไหร่ แนะนำว่าหากเลี่ยงได้ก็ไม่ควรเลือกตำแหน่งนี้
ต่อมาตำแหน่งใกล้ความร้อน โดยส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้บริเวณครัวที่ร้อนและชื้น เพราะไอความร้อนที่เกิดขึ้นนั้นหากลอยมาโดนหน้าจอ แรกๆ อาจยังไม่เห็นผลกระทบแต่เมื่อเวลาผ่านไปก็จะส่งผลต่อเม็ดสีของหน้าจอ จุดนี้หากจะติดตั้งควรระวังทิศทางของไอความร้อนที่จะลอยเข้ามาปะทะจอเป็นพิเศษ
3. Blind Spot (จุดอับ ลับตาคน)
จุดลับตาคนก็เป็นอีกจุดที่พึงระวัง ในข้างต้นเราได้กล่าวถึงมุมที่ดีที่คนจะสามารถเห็นได้โดยง่ายแต่ในทางตรงกันข้าม หากร้านค้าเลือกที่จะติดตั้งจอในจุดอับก็จะเป็นการลดความสามารถในการสื่อสารไปสู่ลูกค้าลง ซึ่งจุดอับที่ว่านั้นก็คือจุดที่โดนบดบังทัศนวิสัย อาจจะถูกบังด้วยกำแพง ประตู หรือใดๆก็ตาม รวมไปถึงบริเวณที่อยู่ลึก ไม่ได้เป็นจุดที่ลูกค้าเข้าไปสัญจรบ่อยครั้ง จุดนี้เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่เราไม่ควรละเลย
