Siam Signage Company Leading of Digital Signage

แนะจุดแข็งจอ LED แต่ละแบรนด์ เลือกจอที่ใช่สำหรับแนวทางธุรกิจ

เลือกซื้อจอ LED แบรนด์ไหนดี?

แนะจุดแข็งจอ LED แต่ละแบรนด์

จอ LED หรือ (Light Emitting Diode) คือจอภาพที่ใช้เทคโนโลยีไดโอดเปล่งแสง LED ในการให้แสงสว่างและแสดงผลภาพ โดยมีข้อดีหลายประการทั้งเป็นจอที่ช่วยประหยัดพลังงาน แต่ให้แสงที่แม่นยำจึงช่วยให้ภาพมีความคมชัดสูง อีกทั้งยังมีความบางเบาเคลื่อนย้ายและจัดเก็บง่าย อายุการใช้งานก็ยาวนานกว่าหลอดไฟประเภทอื่น ๆ ฉะนั้นในยุคที่การค้าขายทั้งออนไลน์ออฟไลน์มีการแข่งขันสูง เจ้าของธุรกิจจึงมีความจำเป็นจะต้องหาเครื่องมือที่ช่วยสร้างแรงดึงดูดใจให้ลูกค้าสนใจแบรนด์ของคุณ

การเลือกใช้จอ LED จึงถือเป็นอุปกรณ์หนึ่งที่ช่วยตอบโจทย์ธุรกิจของคุณในข้อนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะให้ภาพที่สวยงามคมชัดและฟังก์ชันที่ทันสมัยมากมาย จึงช่วยกระตุ้นความสนใจและสร้างแรงดึงดูดใจที่ดีให้ของผู้บริโภคได้ แต่การเลือกซื้อจอประเภทนี้เพื่อใช้งานในธุรกิจจะต้องพิจารณาในหลาย ๆ ปัจจัย เช่น ขนาด, ความละเอียด, ฟีเจอร์, ระบบปฏิบัติการ, ราคา, แบรนด์หรือการรับประกัน ฯลฯ เพื่อให้ได้จอที่ตรงกับความต้องการและมีความคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งในบทความนี้เราจะมาบอกคุณถึงวิธีการเลือกซื้อ รวมถึงรายละเอียดของข้อดีและจุดแข็งของจอประเภทนี้ในแต่ละแบรนด์เพื่อประกอบการตัดสินใจของคุณ

หลักในการเลือกซื้อจอ LED ให้ตอบโจทย์การใช้งานและคุ้มค่า

  • เลือกขนาดจอที่เหมาะสมกับขนาดของห้องหรือพื้นที่ในการโชว์สินค้า
    ขนาดของจอเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อ ซึ่งควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ที่ต้องการใช้งานหรือแสดงสินค้า โดยขนาดจอทั่วไป 40-55 นิ้ว จะเหมาะสำหรับห้องขนาดเล็กถึงกลาง ส่วนจอขนาด 55-65 นิ้วขึ้นไป จะเหมาะสำหรับพื้นที่แสดงสินค้าขนาดใหญ่ เป็นต้น

  • เลือกความละเอียดของจอภาพ (Resolution)
    ความละเอียดของภาพ เช่น Full HD (1080p) เป็นความคมชัดระดับทีวีที่เป็นจอ LED ทั่วไป, 4K (Ultra HD) เป็นจอภาพที่มีความละเอียดสูง ให้ภาพที่คมชัดและเป็นมาตรฐานในปัจจุบัน หรือ 8K สำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพสูงสุด แม้ในปัจจุบันก็ยังมีให้หาซื้อใช้ได้น้อยแต่เชื่อว่านี่จะเป็นคุณสมบัติของความละเอียดที่หลายธุรกิจเลือกใช้กัน

  • ประเภทของจอภาพ
    ประเภทของจอมีให้คุณเลือกทั้ง LED (Light Emitting Diode) เป็นจอพื้นฐานที่ราคาไม่สูงมากและมีประสิทธิภาพในการใช้งานทั่วไป, QLED (Quantum Dot LED) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ Quantum Dot ทำให้ภาพมีสีสันสดใสและคอนทราสต์ที่ดีขึ้น หรือ OLED (Organic Light Emitting Diode) เป็นจอที่แสดงผลสีดำได้ลึกและมีความคมชัดของสีสันสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบภาพที่สมจริง

  • รีเฟรชเรท (Refresh Rate)
    รีเฟรชเรท คือ ความถี่ในการอัปเดตภาพบนหน้าจอที่มีหน่วยวัดเป็นเฮิรตซ์ (Hz) ซึ่งจอ LED จะมีให้เลือกทั้ง 60Hz ที่เหมาะสำหรับการดูVDOหรือโชว์ภาพทั่วไป และ120Hz ที่ให้ภาพที่คมชัดสีสันสวยงามและรับการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วได้ ซึ่งรีเฟรชเรท120Hz นิยมใช้เป็นจอภาพสำหรับการเล่นเกมหรือดูภาพยนตร์แอคชั่นที่มีการเคลื่อนไหวเร็ว

  • ระบบปฏิบัติการ
    ต่อมาคือระบบปฏิบัติการ ควรเลือกทีวีที่รองรับระบบปฏิบัติการที่คุณใช้งานสะดวกที่สุด เช่น Android TV ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายจาก Google Play Store รวมถึงการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ง่าย, Tizen (Samsung) จะใช้งานง่ายและรองรับแอปพลิเคชัน พื้นฐาน เช่น Netflix, YouTube หรือ WebOS (LG) ที่สามารถรองรับ AI ThinQ สำหรับการสั่งงานด้วยเสียง เป็นต้น

  • ควรเลือกจอที่มีพอร์ตเชื่อมต่อหลากหลาย
    อีกปัจจัยที่ควรพิจารณา คือจอที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่รองรับอย่างครอบคลุม เช่น HDMI (สำหรับการเชื่อมต่อกับเครื่องเล่นหรือเกมคอนโซล), USB และ Optical Audio

  • ระบบเสียง
    ระบบเสียงในจอ LED เป็นปัจจัยที่ควรพิจารณา เพราะหากการใช้งานของคุณไม่จำเป็นต้องใช้เสียง ก็ควรเลือกระบบเสียงแบบ Dolby Atmos ก็เพียงพอ แต่ถ้าหากคุณต้องการเน้นคุณภาพของเสียงที่สูง ก็ควรพิจารณาเลือกจอที่มีระบบเสียงซาวด์บาร์นั่นเอง

  • ราคาและความคุ้มค่า
    เลือกจอที่ตรงกับความต้องการของคุณและมีราคาที่คุ้มค่ากับการใช้งานระยะยาว ซึ่งราคาของจอ LED อาจแตกต่างกันไปตามแบรนด์ ฟีเจอร์และขนาด ฉะนั้นจึงควรเปรียบเทียบฟีเจอร์และคุณภาพก่อนตัดสินใจซื้อ

  • การรับประกันและบริการหลังการขาย
    ตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันและบริการหลังการขาย ซึ่งคุณควรจะเลือกแบรนด์ที่มีศูนย์บริการใกล้บ้านและให้บริการหลังการขายที่ดี โดยคุณอาจจะต้องดูรีวิวจากช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ หรือสอบถามผู้ที่เคยใช้งาน เป็นต้น

  • เลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ
    แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและเชื่อถือได้ในคุณภาพ เช่น Samsung, LG, Sony, TCL ถือเป็นแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือในเรื่องคุณภาพและมีชื่อเสียงในการผลิตจอที่ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับกันในวงกว้าง

ข้อดีของ จอ LED จากหลายแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย

  1. Samsung
    เทคโนโลยี QLEDของ Samsung นั้นให้ความสดใสของสีและความคมชัดที่โดดเด่น โดยเฉพาะการแสดงผลสีดำและสีสว่าง เช่น สีขาวหรือสีทอง ที่ช่วยให้ความลึกและ เพิ่มมิติที่คมชัดโดดเด่นสมจริงมากขึ้น รองรับ 4K และ 8K ทำให้ภาพมีความละเอียดสูงมาก พร้อมการรีเฟรชเรทที่สูงถึง 120Hz และมีฟีเจอร์เสริม เช่น FreeSync และ Variable Refresh Rate (VRR) เพื่อช่วยลดการฉีกขาดของภาพ จึงเหมาะกับการใช้งานได้รับชมภาพยนตร์หรือเล่นเกมได้เลย

    หรือจอ LED รุ่น Neo QLED ที่ใช้ Mini LED ในบางรุ่น ซึ่งช่วยเพิ่มความละเอียดในการควบคุมแสงและคอนทราสต์ ทำให้ภาพมีความคมชัดและสีสันที่สมจริงมากยิ่งขึ้น ช่วยให้การควบคุมแสงดีขึ้นส่งผลให้คอนทราสต์ดีเยี่ยม นอกจากนั้น Samsung ยังมีเทคโนโลยี Quantum Dot ที่ช่วยในการเพิ่มความแม่นยำของสี ทำให้ภาพที่แสดงมีความสดใสและสมจริงขึ้น

    อีกทั้งจอ LED ของ Samsung ยังมีระบบปฏิบัติการ Tizen ที่ใช้งานง่ายรวดเร็ว และรองรับแอปพลิเคชันหลากหลาย เช่น Netflix, YouTube, Disney พร้อมการออกแบบที่เน้นความบางเบาและเรียบหรูดูทันสมัย สามารถเข้ากับการตกแต่งได้ทุกรูปแบบ แต่สองรุ่นที่เราได้กล่าวไปก็มักจะมีราคาสูงกว่าแบรนด์อื่น ๆ ในระดับเดียวกันและถึงแม้ว่า Tizen จะใช้งานง่าย แต่ยังไม่รองรับแอปพลิเคชันบางตัวที่มีบน Android TV หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ

  2. จอ LED ของ LG
    LG นั้นถือเป็นผู้นำในเทคโนโลยีของ OLED ที่ทำให้จอภาพมีความสามารถในการแสดงสีดำที่ลึกมากและคอนทราสต์ที่ยอดเยี่ยม ทำให้การดูทีวีจากทุกทิศทางภาพไม่ผิดเพี้ยนแม้จะมองจากมุมเฉียง โดยเฉพาะในรุ่นที่ใช้ NanoCell และ QNED ที่ปรับสีให้สดใสและคมชัดยิ่งขึ้น จึงทำให้จอของ LG มีความนิยมในตลาดทั่วโลก เนื่องจากมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและคุณภาพของการให้ภาพที่สวยคมชัดและสีสันที่แม่นยำกว่าจอ LED ทั่วไป

    โดยมีระบบปฏิบัติการคือ WebOS ของ LG เป็นหนึ่งในระบบปฏิบัติการสมาร์ตทีวีที่ง่ายต่อการใช้งานและมีความเสถียร รองรับ Dolby Vision (เทคโนโลยีภาพ HDR ที่ดีที่สุด) และ Dolby Atmos (ระบบเสียงรอบทิศทาง) ซึ่งทำให้ประสบการณ์การดูภาพหรือวิดีโอต่าง ๆ ยอดเยี่ยมทั้งภาพและเสียง พร้อมฟังก์ชัน Auto Low Latency Mode (ALLM) และ Variable Refresh Rate (VRR) โดยสามารถใช้งานกับแอปพลิเคชันที่หลากหลาย เช่น Netflix, YouTubeและ Disney

    นอกจากนั้น จอ LED ที่เป็นระบบปฏิบัติการ WebOS ยังรองรับ AI ThinQ ยังใช้งานง่าย รวดเร็วและรองรับการสั่งงานด้วยเสียงและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สมาร์ตภายในบ้านหรือพื้นที่แสดงสินค้าของคุณได้ง่าย ที่สำคัญเลยคือจอของ LG มีเทคโนโลยีที่เน้นการประหยัดพลังงาน โดยเฉพาะในจอ LED รุ่นใหม่ ๆ ที่ใช้เทคโนโลยี Eco Mode เพื่อช่วยลดการใช้พลังงานในขณะที่ยังคงความคมชัดของภาพได้เช่นเดิม แต่อาจมีข้อจำกัดในด้านการแสดงผลสีดำและราคาที่สูงในบางรุ่น

  3. จอ LED ของ Sony
    แบรนด์ Sony นั้นมีชื่อเสียงในด้านคุณภาพของภาพและเสียงที่ดีเยี่ยม โดยมุ่งเน้นการประมวลผลภาพที่สมจริงและระบบเสียงที่ตอบสนองการรับชมอย่างเต็มที่ จะใช้ชิปประมวลผล X1 Ultimate หรือ Cognitive Processor XR ซึ่งให้ภาพที่คมชัดมีรายละเอียดสูงและการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหล การปรับสีและคอนทราสต์ทำได้ดีมากทำให้ภาพมีความสมจริง โดยเฉพาะในรุ่น Bravia ที่เป็นที่นิยมอย่างมากของลูกค้าในหลายประเทศ

    จอ LED ของ Sony ยังมาพร้อมระบบเสียงแบบ Acoustic Surface Audio+ ในบางรุ่น ซึ่งทำให้เสียงออกมาจากหน้าจอโดยตรงเกิดความรู้สึกที่สมจริง สอดคล้องกับภาพและเพิ่มประสบการณ์การรับชมที่ยอดเยี่ยมได้ นอกจากนั้นยังรองรับฟีเจอร์ HDR10, IMAX EnhancedและDolby Vision เพื่อเพิ่มคุณภาพในการรับชมภาพและวิดีโอ ซึ่งทำให้การแสดงผลภาพที่มีคอนทราสต์สูงและความสว่างดีเยี่ยม พร้อมระบบ TRILUMINOS Display ช่วยในการแสดงผลสีสันที่แม่นยำและมีความหลากหลาย ทำให้ภาพดูสดใสและมีชีวิตชีวา มีความละเอียดในพื้นที่มืดและสว่าง เป็นต้น

    อีกทั้งยังเป็น Android TV รองรับการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจาก Google Play Store ได้ พร้อมการออกแบบที่บางเบาเรียบง่ายหรูหราแต่นำสมัย สามารถเข้ากับการตกแต่งของบ้านหรือร้านค้าให้ดูทันสมัยมากขึ้น แต่จอ LED ของ Sony เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่เน้นคุณภาพภาพและเสียงที่สมจริง โดยเฉพาะในรุ่นที่ใช้ชิปประมวลผลขั้นสูงและรองรับฟีเจอร์การแสดงผลแบบ HDR แต่ก็มีข้อจำกัดเช่นราคาที่สูงเมื่อเทียบกับแบรนด์ในตลาดที่มีคุณภาพใกล้เคียงกัน

  4. Philips
    จอภาพของ Philips นั้นจะเป็นเทคโนโลยีที่เรียกว่า Ambilight ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ Philips ที่ทำให้มีแสงไฟออกมาจากด้านหลังของจอ เพื่อเพิ่มบรรยากาศในการรับชมได้ และรองรับการแสดงผลแบบ Dolby Vision และ HDR10+ เพื่อเพิ่มความชัดเจนและความลึกของภาพ พร้อมระบบปฏิบัติการ Android TV ทำให้เข้าถึงแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้ง่าย ซึ่งจอ LED ของ Philips นั้นก็มีดีไซน์เรียบง่าย ทนทานและคุ้มค่ากับราคา

  5. TCL
    TCL หรือ The Creative Life มาจากบริษัท TCL Corporation ที่เป็นบริษัทสัญชาติจีน ก่อตั้งขึ้นในปี 1981 โดยเริ่มแรก TCL ผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์และเครื่องเล่นวิดีโอ ก่อนที่จะขยายธุรกิจมาผลิตโทรทัศน์และจอแสดงผลสำหรับจอ LED ของ TCL เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างเนื่องจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าของ TCL ในการพัฒนาจอแสดงผลแบบ LED ที่ให้คุณภาพของภาพที่สว่าง คมชัดและประหยัดพลังงาน มีให้เลือกใช้งานมีหลายประเภท เช่น QLED, Mini LED ซึ่งใช้เทคโนโลยีเฉพาะเพื่อเพิ่มความคมชัดและสีสันที่สมจริง นอกจากนั้น TCL ยังมีโรงงานผลิตและศูนย์วิจัยในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งทำให้บริษัทสามารถผลิตและพัฒนาจอแสดงผลที่มีคุณภาพได้ในราคาที่คุ้มค่า

    จอ LED ของ TCL รองรับเทคโนโลยี Dolby Vision และ HDR10+ ในบางรุ่น ทำให้ภาพมีคอนทราสต์สูงและสีสันสดใส มีระบบปฏิบัติการ Android TV และบางรุ่นใช้ Roku TV ซึ่งใช้งานง่ายและมีฟังก์ชันการใช้งานให้เลือกหลากหลาย จุดเด่นของจอ TCL มักจะมีการออกแบบที่เน้นจอใหญ่แต่ราคาย่อมเยาเหมาะกับผู้ที่ต้องการประสบการณ์รับชมที่ดีในราคาประหยัด

  6. Hisense
    แบรนด์นี้มาจากบริษัท Hisense Group ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติจีนเช่นเดียวกัน ก่อตั้งขึ้นในปี 1969 โดยเริ่มต้นจากการเป็นโรงงานผลิตวิทยุและเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ก่อนที่จะขยายธุรกิจไปสู่การผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน รวมถึงโทรทัศน์และจอแสดงผล ซึ่งจอ LED ของ Hisense เป็นที่รู้จักในเรื่องของการผลิตจอภาพที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง ด้วยการใช้เทคโนโลยี LED (Light Emitting Diode) ทำให้ภาพมีความสว่างสูง คมชัดและให้สีสันที่สมจริง

    นอกจากนั้น Hisense ยังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ULED ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เน้นการปรับปรุงคุณภาพของภาพและการแสดงผลที่ละเอียดกว่า LED ทั่วไป โดยการควบคุมแสงแบบพิเศษและการแสดงสีที่กว้างขึ้น โดยขยายการผลิตและการวิจัยไปทั่วโลก เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดโทรทัศน์และจอ LED ที่มีความต้องการสูงในกลุ่มผู้บริโภคต่าง ๆ รวมถึงหลายธุรกิจ เพราะเป็นแบรนด์ที่มีราคาไม่สูงมาก แต่ยังมีฟีเจอร์คุณภาพสูง เช่น ULED และ QLED รองรับการแสดงผลแบบ Dolby Vision และการรีเฟรชเรทที่สูง ทำให้การรับชมเนื้อหามีความราบรื่นและคมชัด ระบบปฏิบัติการ VIDAA ที่ใช้งานง่ายและมีความเร็วในการเปิดใช้งาน นั่นเอง

และนี่คือข้อมูลของแต่ละแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ที่ช่วยให้คุณประกอบการตัดสินใจเลือกจอ LED ที่เหมาะสำหรับการใช้งานของธุรกิจคุณ และหากคุณกำลังมองหาจอภาพที่เป็น LED ของแบรนด์คุณภาพเหล่านี้ SIAM SIGNAGE เรามีจอดิจิตอลคุณภาพดีหลากหลายรูปแบบที่ตอบสนองความต้องการด้านการตลาดได้ ไม่ว่าจะเป็นจอขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ แม้กระทั่ง จอ LED ที่ติดตั้งภายในหรือภายนอกอาคาร เพื่อการสื่อสารและช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

เพราะเราคือผู้ให้บริการนวัตกรรมจอ Digital Signage จอโฆษณา LED จาก Samsung และ LG คุณภาพสูงระดับจอ LED Display พร้อมทั้งมีบริการรับติดตั้งและจำหน่ายจอ LED Outdoor – Indoor ที่คุณสามารถมั่นใจในคุณภาพได้

สนใจติดตั้ง จอ LED สำหรับธุรกิจ ร้านค้าสาขาต่าง ๆ ปรึกษาก่อนติดตั้งจอกับเราได้ทันที
มือถือ : 095-428-9329
โทรศัพท์ : 02-294-9944
อีเมล : [email protected]

Close
Close

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยินยอมทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อประสิทธิภาพ

    คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์/วัดผลการทำงานของเว็บไซต์

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

บันทึก
Close
Lost your password?
Close
Shopping cart